โปรแกรมบริหารงานซ่อมบำรุง บริหารงานสินทรัพย์ บริหารงานคงคลัง ของคนไทย จากฝีมือคนไทย (ในส่วนของ Dashboard และ Work Request)

Dashboard control: จะเป็นหน้าจอหลักของผู้ได้รับสิทธิการใช้งานโปรแกรม SuperviSoft CMMS ซึ่งจะสามารถเพิ่ม หรือ ดึงข้อมูลต่างๆมาแสดงให้เห็นใจรูปแบบการแสดงผลแบบ  Graph , Chart หรือ ตัวเลข สถิติต่างๆ แต่ละ user สามารถปรับแต่ง Dashboard เป็นของตัวเองได้โดยตามความต้องการของแต่ละคน อย่างเช่นตามภาพตัวอย่างด้านล่างนี้ user ดึงข้อมูล PM ON-TIME, OVERDUE WORK ORDERS, MTTR, WORK REQUESTS, OPEN WORK ORDER และ LOW STOCK ITEMS. กล่าวคือ เพื่อให้การทำงานทุกวันเวลามีเป้าหมาย และสามารถวางแผนงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทันท่วงที เพราะ Software จะมีการ updated อยู่ตลอดเวลา

Work Request: จะเป็นหน้าจอแสดงรายการ Work Request ทั้งหมดที่ user ได้เป็นคนออก รวมถึง Status ว่าถึงไหนแล้ว ผู้ได้รับสิทธิการใช้งานโปรแกรม SuperviSoft CMMS ซึ่งจะสามารถติดตามสถานะ และ สามารถ เพิ่ม Work Request ได้จากหน้าจอด้านล่างนี้

KPI(Key Performance Indicator) หรือดัชนีตัวชี้วัด ในงานบริหารงานซ่อมบำรุงส่วนใหญ่นิยมหาค่า MTTR, MTBF และ Availibility

ดัชนีตัวชี้วัด (KPI)
 ในระบบซ่อมบำรุงสามารถจะนำข้อมูลที่บันทึกไว้มาประมวลผล เพื่อวิเคราะห์หาค่า KPI (Key Performance Indicator) ตัวอย่างเช่น
อยากอธิบายให้ง่ายๆและสั้นๆ จะได้ไม่รู้สึกน่าเบื่อจนเกินไปโดยมีภาพประกอบตามด้านล่างครับ

MTTF (Mean Time To Failure) หรือ "ค่าเวลาเฉลี่ยก่อนการเสียหาย''  กล่าวคือ เป็นค่าเฉลี่ยที่เครื่องจักรเดินได้ปกติก่อนเกิดการเสียหาย ค่านี้ยิ่งมากยิ่งดี
            ตัวอย่าง เช่น จากภาพด้านบนเครื่องจักรเดินได้ปกติคือ 10 ชม. และ 20ชม.
            ค่า MTTF คือ (10+20)/2 ซึ่งก็คือ 15 ชม.  ค่านี้ยิ่งมากยิ่งดี 
            สูตรคือ MTTF = เวลาที่เครื่องจักรเดินได้ก่อนการหยุด / จำนวนครั้งที่เครื่องหยุด

MTTR (Mean Time To Repair) หรือ "ค่าเวลาเฉลี่ยของการซ่อม'' ค่านี้ยิ่งน้อยยิ่งดี กล่าวคือเป็นค่าระยะเวลาเฉลี่ย ต่อการเข้าไปซ่อมเครื่องจักรต่อครั้ง โดยจากการหาค่าเฉลี่ยของเวลาการซ่อมเครื่อง
ของจำนวนครั้งทั้งหมด.

            ตัวอย่าง เช่น จากภาพด้านบนมีการซ่อมเครื่องจักร 2 ครั้งเนื่องจากเครื่องจักรหยุด ครั้งแรกใช้เวลา 1 ชม. ครั้งที่ 2 ใช้เวลา 2 ชม.
            ค่า MTTR คือ (1+2)/2 ซึ่งก็คือ 1.5 ชม.  ค่านี้ยิ่งน้อยยิ่งดี 
            สูตรคือ MTTR = เวลาที่ใช้ในการซ่อม / จำนวนครั้งที่เครื่องหยุด

MTBF (Mean Time Between Failure) หรือ "ค่าเวลาเฉลี่ยระหว่างการเสียหาย''  ค่านี้ยิ่งมากยิ่งดี กล่าวคือ ค่าเวลาเฉลี่ยระหว่างที่เครื่องจะเสีย.  
           ตัวอย่าง เช่น จากภาพด้านบนเครื่องจักรเดิน 33 ชั่วโมง เครื่องหยุดเสียมา 2 ครั้ง ครั้งแรก 1 ชั่วโมง ครั้งที่ 2 อีก 2 ชม. รวมเสีย 3 ชั่วโมง 
ค่า MTBF ก็คือ ((33-3)/2) = 15 ชม. คือ เครื่องจักรมีค่าเฉลี่ยที่จะเสียทุก 15 ชั่วโมงที่เดินเครื่อง ค่านี้ยิ่งมากยิ่งดี
            สูตรคือ MTBF = เวลาที่เครื่องจักรเดินได้ / จำนวนครั้งที่เครื่องหยุด

สรุปจากตัวอย่างด้านบน จะเห็นว่าค่า MTTF และ MTBF ค่าจะเท่ากัน หรืออาจจะแตกต่างกันน้อยมาก ฉนั้นจึงไม่นิยมนำค่า MTTF มาคำนวณกันสักเท่าไหร่.

-Availability (ดัชนีความพร้อมใช้งาน)  ตัวอย่าง
Availability = MTBF/(MTBF+MTTR) x 100 ค่ายิ่งมากยิ่งดี

โปรแกรมบริหารงานซ่อมบำรุง บริหารงานสินทรัพย์ บริหารงานคงคลัง ของคนไทย จากฝีมือคนไทย

SUPERVISOFT CMMS Software คือ Software การจัดการสินทรัพย์ต่างๆของโรงงาน บริษัท ห้างร้าน หน่วยงานราชการและเอกชน หรือบริหารงานซ่อมบำรุงในโรงงาน ไม่ว่าจะเป็น การจัดการเครื่องจักรต่างๆ เช่น งานวางแผนงานซ่อมบำรุงประจำปี ประจำเดือน ประจำสัปดาห์ หรือประจำวัน งานการรวบรวมเก็บสถิติจาก Breakdown ของเครื่องจักร การออกใบแจ้งงานและใบสั่งงาน การจัดการอะไหล่ การรายงานสรุป หรือ Report โดยเรามีทีมงานที่มีประสบการณ์ในการเขียน software ให้กับบริษัทต่างชาติมากมาย และประกอบกับมีประสบการณ์ในงานบริหารงานซ่อมบำรุง เราสามารถเขียน Software ตามความต้องการของผู้ใช้ และนั่นคือสิ่งสุดยอดของการพัฒนาที่เข้าถึงผู้ใช้แต่ละแบบที่แตกต่างกันได้ จากผู้ใช้งานทั่วโลกเคยใช้ Software จากทางเรามามากกว่า 1000 บริษัท ทั้งหมดนั้นคือผลงานจากทีมพัฒนาโปรแกรมบริหารระบบงานซ่อมบำรุง SUPERVISOFT CMMS  ครับ

และถึงเวลาแล้วครับที่จะ มี CMMS Software ของคนไทยอีกหนึ่งตัวไว้เพื่อพิจารณา และหวังเป็นอย่างยิ่งครับที่จะได้รับการสนับสนุนจากท่านผู้ดูแลระบบงานซ่อมบำรุง ขอบคุณทุกท่านมากนะครับ